สถิติ
เปิดเมื่อ25/08/2012
อัพเดท10/12/2012
ผู้เข้าชม3722
แสดงหน้า4063
การเริ่มต้นที่ดี


ข่าวสาร

เครื่องมือและเทคนิคในการเรียนรู้



รวมวีดีโอเกร็ดความรู้ดีๆ..คลิ๊กที่นี่


VDO ความคิด ของ คนจน และ คนรวย คลิ๊ก

VDO เครื่องมือ คนรวย ที่ คนจน ไม่รู้! คลิ๊ก

VDO โปรโมทเว็บ อย่างไรให้ได้ผล คลิ๊ก




เทคนิคการทำงานให้ประสบผลสำเร็จ
การทำงานหน้าคอม ไม่สามารถสรุปได้  เพราะทำงานได้ทุกที่
ที่มีอินเตอร์เน็ต

จะมาตีความต่างๆนาๆแทนตัวตนของคนอื่นเขาไม่ได้ 
ต้องเป็นของตัวเขาเองที่จะตัดสินใจ

และอะไรหละที่ตรงตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของผู้มุ่งหวัง?
 
- ผู้มุ่งหวังแบ่งออกเป็น..หลายประเภท.. หลายด้าน ..หลายปัจจัย
 
เช่น ถ้าเป็นพ่อค้า ขายของชำหละ อะไระหละที่เขาต้องการ
....กำไรจากการขายของ และการขยายร้านเพิ่มในอนาคต...
สิ่งที่พวกเขาสามารถขายของได้กำไร...ก็คือซื้อสินค้าที่ราคาถูก
กว่าใครแล้วนำมาขาย....ผลที่ตามมาหละ..
ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นทำให้สามารถ
ขยับขยายร้านได้.......
นั้นเป็นสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าต้อง
การหรือเปล่าว
?
......ถ้าใช่...นั้นก็คือเรารู้วัตถุประสงค์ของผู้มุ่งหวัง
ที่ถูกทาง....


01.jpg

จากรูปคุณคิดว่าเขาจะเลือกอย่างไหน แบบล่าง หรือ บน
 ...สำหรับกลุ่มผู้มุ่งหวังกลุ่มนี้

 
....แล้วเรามีเครื่องมือหรือสินค้าอะไรที่จะนำเสนอ.ทำให้ผู้มุ่งหวัง
..มองเห็นเป้าหมายที่ชัดเจนของเขาใน.......อนาคต......


เช่นโปรโยคที่ว่า


อาชีพที่เป็นไปได้ ทำง่าย ได้จริง มั่นคง
คนที่รวยที่สุดในโลก มองหาวิธีการ สร้างเครือข่าย
ในขณะที่คนอื่นๆ เรียนจบแล้วมองหางานประจำทำ
เมื่อคุณหยุดทำงาน คุณยังมีรายได้อีกหรือไม่ ? อนาคตคุณจะเป็นอย่างไรหลังจากเกษียณอายุ ?
ธุรกิจอะไรที่จะทำให้คุณมีรายได้ตลอด และเป็นมรดกตกทอดได้ ?
จากที่เราได้ซื้อกินซื้อใช้ตั้งแต่แรกมาจนถึงทุกวันนี้
เราได้ใช้จ่ายไปโดยที่ไม่ได้ปันผลกับมา นับว่ามากพอที่จะซื้อรถและสร้างบ้านได้ทั้งหลัง
ในยุกสมัยนี้ ของกินของใช้ก็มีราคาแพงขึ้นทุกวัน
แล้วทำไมเราไม่ซื้อสินค้าที่เราเป็นสมาชิกหรือเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจนั้น
สิ่งที่จะแนะนำนั้นเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตในปัจจุบันทั้งทางด้านสังคมเมืองและสังคมภาคการเกษตร
นี้แหละเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ เพราะเราต้องควักกระเป๋าตังซื้อใช้เป็นประจำ
จะต่างอะไรกับเจ้าของหุ้นน้ำมัน
ที่เวลาน้ำมันแพง..ใครหละที่ยิ้มเมื่อน้ำมันแพง
เพราะเขาซื้อใช้แล้วยังได้ปันผลกลับมา
เปรียบว่า
ขออัดยายซื้อขนมยายแล้วเงินทองจะไปไหนเสีย
ทำธุรกิจกั บจอย แอนด์ คอยน์ อาชีพที่ 2 ของคุณ ลงทุนน้อย สินค้ามากมาย
ไม่เสียงานประจำ มีอิสระภาพทั้งการเงินและเวลา

ให้คุณปลดเกษียณตัวเอง มีรายได้ทั้งรายเดือน และรายวัน ไม่กำหนดระยะเวลา
ความสำเร็จ
ทำง่าย ลงทุนน้อย ครั้งเดียว ใช้ดีแล้วบอกต่อ ไม่ต้องรักษายอด ไม่กำหนดระยะเวลา
ได้จริง รับผลตอบแทนทั้งรายวัน รายเดือน และเงินเดือนประจำตำแหน่ง
(ตลอดไปและเป็นมรดกตกทอดโดยไม่ต้องทำงาน)

มั่นคง มีโรงงานผลิตและจำหน่ายสินค้าเอง แผนการตลาดผ่าน ส.ค.บ.
มีศูนย์ขยายงานทั่วประเทศ

 
เทคนิคการทำงานให้ประสบผลสำเร็จ (6P)

ครที่คิดว่าตัวเองยังไม่ประสบความสำเร็จ ในหน้าที่การงานเท่าที่ควร หรือล้มเหลวเมื่อปีที่ผ่านมา อย่าเพิ่งท้อ ลองค้นหาจุดบกพร่องของตัวเอง แล้วปรับปรุงให้ดีขึ้น พร้อมทั้งหาเทคนิควิธีการใหม่ๆมาปรับใช้ในการทำงานนะคะ

ซึ่งก็มีเทคนิคในการทำงานดีๆที่เรียกว่า คาถา 6 P มาฝาก 

1. P-Positive Thinking
คือ การมีทัศนคติที่เป็นบวก มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ ไม่คิดในทางลบ เช่น หากเจอปัญหาในการทำงาน แทนที่จะนั่งกลุ้มใจ คิดว่าคราวนี้ต้องแย่แน่ ก็ให้มองว่า นี่เป็นหนทางหนี่งที่จะฝึกฝนให้เราเก่งกล้ามากยิ่งขึ้น

2. P-Peaceful Mind
คือ การมีจิตใจที่สงบ เคยได้ยินคำพูดที่ว่า “จงใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว” หรือเปล่า คำพูดนี้ใช้ได้ผลดีทีเดียว เวลาเกิดปัญหาขึ้น เราอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปกับปัญหานั้น การมีจิตใจที่สงบ มีสมาธิ จะทำให้เราเกิดปัญญา ในการคิดหา วิธีแก้ปัญหา นอกจากนี้ ยังทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย

3. P-Patient
คือ การมีความอดทน คาถาข้อนี้ก็สอดคล้องกับข้อที่แล้ว เพราะการที่เราจะมีจิตที่สงบได้ เราต้องรู้จักอดทนอดกลั้น ระงับอารมณ์ ความรู้สึกที่ไม่ดีต่างๆ หากสิ่งใดๆ ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ เราก็ต้องอดทนรอคอย ให้ถึงช่วงเวลาของเรา นอกจากนี้ยังต้องอดทน ต่อปัญหาและความยากลำบากในการทำงานด้วย

4. P-Punctual
คือ การเป็นคนตรงต่อเวลา มนุษย์เราได้ถูกปลูกฝัง ให้เป็นคนมีวินัย รู้จักตรงต่อเวลามาตั้ง
แต่ยังเป็นเด็ก เช่น การไม่มาโรงเรียนสาย ส่งการบ้านให้ตรงเวลา ในการทำงานก็เช่นกัน หากเรามาทำงานสาย เจ้านายคงไม่ชอบแน่ๆ แล้วยิ่งถ้าเราผิดนัดลูกค้า ผลเสียคงตามมาอีกเป็นกระบุง แม้แต่เวลายังรักษาไม่ได้ เจ้านาย หรือลูกค้าคงไม่ไว้ใจ ให้เราทำงานใดๆแล้วละ

5. P-Polite
คือ การเป็นคนสุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน การเป็นคนสุภาพนอบน้อม จะทำให้มีแต่คนรักใคร่ และอยากช่วยเหลือ ยิ่งถ้าเรามีตำแหน่งใหญ่โตด้วยแล้ว ยิ่งต้องมีความสุภาพอ่อนน้อมเพราะจะทำให้ ผู้อื่นยิ่งเกรงใจเรามากขึ้น ตรงกันข้าม การทำตัวกระด้างกระเดื่อง หยาบคาย หยิ่งยโส ย่อมเป็นที่รังเกียจของสังคม และไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย

6. P-Professional
คือ ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน การที่เรามีหน้าที่อะไร เราก็ควรทำตัวให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในหน้าที่นั้นๆ หมั่นแสวงหาความรู้ใหม่ๆ และหมั่นฝึกปรือฝีมือในการทำงานอยู่เสมอ เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด การทำงานอย่างมืออาชีพ จะเป็นที่ชื่นชมและไว้วางใจของเจ้านาย
รวมไปถึงลูกค้าที่ย่อมจะพอใจ และไว้วางใจ ให้เราดูแลงานของเขาต่อไป


       คาถา 6 P ที่นำมาฝากนี้ อยากให้นำไปปฏิบัติให้เป็นนิสัย รับรองว่ามันจะเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้ คุณประสบความสำเร็จ ในหน้าที่การงานอย่างแน่นอน



 

การเริ่มต้นธุระกิจใน 30 วันแรก

       การเริ่มต้นธุรกิจใน 30 วันแรก  การเริ่มต้นทำธุรกิจเครือ


ข่ายส่วนใหญ่แล้วใน 30 วันแรกสิ่งที่คุณต้องทำคือ


1.ลิสต์รายชื่อ หาได้จากโทรศัพท์
มือถือของคุณนั่นแหละครับ จดออกมาให้หมดก่อน
อย่าพึ่งไปคิดแทนเขาว่าเขาจะไม่ทำให้คุณหาสมุด

ไว้ซัก 1 เล่มจดรายชื่อออกมาให้หมดก่อน  

 

 

 

2.เมื่อเราจดรายชื่อออกมาจากโทรศัพท์หมดแล้วให้คุณเริ่มทำการ
คัดแยกรายชื่อครับคนไหนที่คิดว่าจะมีโอกาศในการมา
เข้าร่วมธุรกิจ
คัดแยกรายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ออกมาเลยครับถ้าคิดไม่ออกผม
แนะนำให้คุณคิดว่าถ้าคุณแต่งงานคุณจะเ
ชิญใครมาร่วมงานแต่งคุณ
ดีให้คุณคิดไว้อย่างนี้นะครับ  

 

 

 

3.พอคุณได้รายชื่อที่คัดกรองออกมาแล้วให้คุณเริ่มต้นด้วยการโทรไปนัดนะครับผมขอย้ำนะครับว่าโทรไปนัด!!!คนส่วนใหญ่มักจะล้มเหลวกับวิธีการนี้เพราะเขาโทรไปเล่าครับผมจะบอกว่ามีน้อยคนมากที่จะยอมมาทำอาชีพเสริมกับคุณเพียงแค่คุณโทรไปเล่าให้เขาฟังครับให้คุณนัดเขาออกมาเจอก่อนครับการโทรไปนัดก็ให้เกริ่นนำไปนิดหน่อยเช่นพอโทรไป'ก็ให้ถามก่อนว่า สบายดีไหมเป็นไงบ้าง แล้วก็ให้พูดเชิงว่า'เนี่ยตอนนี้เรานะงานยุ่งมากๆเลยทำอาชีพเสริมอยู่ตัวหนึ่ง เงินดีมากๆเลยเราทำมาหนึ่งเดือนได้เงินมาเท่านั้นเท่านี้ก็ make ไปก่อนครับแต่อย่าให้เว่อจนเกินจริงครับ'ผู้ฟังพอได้ยินเรื่องเงินเค้าจะถามครับว่าเราทำงานอะไรห้ามบอกนะครับว่าเรากำลังทำอะไรให้บอกเขาไปว่าถ้าเขาสนใจให้ออกมานั่งคุยกันครับ  

 

 

4.เมื่อคุณนัดเขาแล้วผมขอย้ำอีกครั้งนะครับว่าถ้าเขายังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกกับคุณห้ามนัดเขาที่บ้านเด็ดขาดครับเพราะอะไรนะเหรอครับก็เพราะถ้าคุณนัดเขาที่บ้านเขาจะเป็นใหญ่ในทันทันทีเหตุผลมาจากสภาพแวดล้อม หมามั่ง แมวมั่ง คนในบ้านที่ไม่เห็นด้วยสุดท้ายคุณจะไม่สามารถสปอนเซอร์ให้เขามาทำ อาชีพเสริม กับคุณได้  


5.วิธีในการนัดนั้นก็ง่ายมากครับให้หาร้าน กาแฟ หรือ ร้าน อะไรก็ได้ที่ห่างจากบ้านเขาไม่ไกลหรืออาจจะนัดเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าของจังหวัดนั้นๆเพื่อหาที่นั่งคุยกันแล้วคุณจะสามารถคุมสถานการณ์ได้ครับเพราะเวลาคุณพูดเค้าจะฟังแต่คุณเพียงคนเดียวอีกอย่างบรรยากาศมันเหมาะแก่การทำธุรกิจเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตัวคุณมากขึ้นด้วยครับ  


6.การคุย คนส่วนใหญ่ก็จะมาล้มเหลวกับวิธีการนี้เยอะมากเพราะพอถึงเวลาคุยคุณกลับเริ่มต้นด้วยการคุยแต่เรื่องธุรกิจเลยจะทำให้ผู้ฟังคิดว่าเราไปเอาผลประโยชน์จากเขามากเิกินไป วิธีในการคุยให้คุยถามไถ่ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ฟังเสียก่อนให้บรรยากาศมันดูเป็นกันเองมากขึ้นก่อนยกตัวอย่างเช่น 'เป็นยังไงบ้างแกสบายดีไหม เดี๋ยวนี้ทำงานอะไร' เป็นต้นครับ   


7.พอคุณได้พูดคุยกับเขาโดยประมาณเขาจะถามคุณเองว่าตอนนี้คุณเป็นยังไงบ้างกำลังทำงานอะไร ห้ามคุณบอกว่าคุณทำธุรกิจเครือข่ายเด็ดขาดเพราะคนส่วนใหญ่จะเจ็บกับธุรกิจพวกนี้มาเยอะและเกิดเป็นเชื้อลบทำให้เขาไม่อยากคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ให้คุณบอกเขาไปว่า'ฉันกำลังทำการตลาดให้กับบริษัทหนึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการพัฒนาคน เงินดีมากเลยแต่บริษัทจะจ่ายเงินนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ล่ะบุคคนว่ามีความสามารถมากน้อยแค่ไหนฉันไม่รู้ว่างานนี้จะเหมาะกับแกไหม'แล้วผู้ฟังจะถามคำถามยอดฮิตเลยว่า 'ต้องขายไหม' ให้คุณถามเขากลับไปว่า'แกชอบขายไหมล่ะ'ไม่ว่าเขาจะตอบว่า ชอบหรือไม่ชอบ ให้บอกเขาไปว่า'ดีเลยงานนี้คงเหมาะกับแก' แล้วเขาจะเริ่มสนใจแล้วถามเกี่ยวกับแผนการตลาดทีนี้แหละให้เล่าแผนการตลาดได้  


8.การเล่าแผนการตลาดอย่าเล่่าในเชิงชักชวนมากเพราะนิสัยคนส่วนใหญ่ถ้ารู้ว่าต้องเสียอะไรโดยที่ยังไม่รู้ว่าจะได้อะไรตอบแทนเขาจะไม่ทำครับ ให้เราพูดจาในเชิงหว่านล้อมประมาณว่าทำไมเขาต้องมาทำอาชีพเสริมกับคุณเราต้องให้เขารู้จุดประสงค์ในการทำก่อนเช่น'แกปกติแกก็ซื้อของพวกนี้ทุกเดือนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอก็แค่แกเปลี่ยนที่ซื้อแล้วได้เงินคืนเดือนล่ะ 3-4พันเอาป่ะ'คนเราพอเห็นเงินมันจะตาลุกวาวครับแต่ห้ามพูดว่าเนี่ยจะได้เงินเป็นแสนเป็นล้านเพราะบางคนคิดว่ามันไกลเกินความสามารถให้คุณดูก่อนจะพูดด้วยว่าคนที่คุณจะพูดด้วยเขามีศักยภาพแค่ไหนเอาแบบให้เขาเอื้อมไปแตะเงินถึง  


9.พอเล่าแผนการตลาดให้เล่าเกี่ยวกับข้อดีของบริษัทเราจัดเต็มไปเลยเช่น'ไม่ต้องรักษายอด ลงทุนครั้งเดียว จ่ายเงินเป็นรายวันและรายเดือน ตำแหน่งขึ้นแล้วขึ้นเลย ไม่มีตัดยอดเก็บสะสมไปเรื่อยๆ'พอเขาเริ่มสนใจก็เริ่มในวิธีการต่อไปครับคือการเก็บตัง  


10.ในการเจอกันวันแรกไม่ต้องเน้นให้ผู้ฟังเข้าใจมากนะครับให้เน้น มึม งง สงสัย เก็บตังครับ เพราะคนส่วนใหญ่ไปให้ข้อมูลเขาเยอะจนเกินไป พอเขาสมัครแล้วกลับไม่ไปดูไม่ไปมองเขาเลยเพราะให้ข้อมูลเขาไปหมดแล้วให้เขาทำงานเองสุดท้ายเขาก็จะหมดกำลังใจและเลิกทำไปในที่สุดครับวันแรกที่เจอให้เราให้ข้อมูลเขาไปแต่พอประมาณพอเขาสมัครแล้วก็ให้นัดเจอเขาอย่างน้อยอาทิตย์ล่ะครั้งเพื่อป้อนข้อมูลเขาเรื่อยๆมันจะดูว่าคุณเป็นคนดูแลเอาใจใส่เขาด้วยครับเสร็จแล้วครับการเริ่มต้นทำอาชีพเสริมใน 30 วันแรก  


11.แต่ถ้าคนไหนเขาไม่สนใจสมัครกับเราอย่าไปอารมณ์เสียใส่เขาเด็ดขาดให้คิดซะว่าเราเอาโอกาศดีๆมาให้เขาและให้คิดซะว่าเราไม่สามารถชวนคนทั้งโลกให้มาทำเครือข่ายกับเราได้เพราะถ้าคนทั้งโลกทำเครือข่ายหมดแล้วใครจะ ปลูกข้าวให้เรากิน ใครจะขับรถแท็กซี่ให้เรานั่ง ใครจะขายของให้เรา นั่นแหละครับให้คิดอย่างนี้ครับแล้วคุณจะสุขกายสุขใจไปกับการทำอาชีพเสริมครับขอบคุณครับ

 
 
 
 

เทคนิคการติดตามผล

สวัสดีครับสมาชิก

ทุกท่านวันนี้ผมจะมาแนะนำเทคนิคการติดตาามผลการสปอนเซอร์ดาวไลน์ที่จะมาทำ อาชีพสริม กับเราว่าเราควรติดตามดาวไลน์อย่างไรให้เกิดผลและประโยชน์สูงที่สุดทั้งกับตัวท่านเองและกับตัวดาวไลน์เองเพื่อไม่ให้เกิดความรำคราญขึ้นทั้ง 2 ฝ่ายและทำให้ดาวไลน์ของท่านมีไฟในการทำวานมากยิ่งขึ้นโดยผมจะแบ่งออกเป็นข้อๆดังนี้ครับ

 

1.ไม่ควรให้ข้อมูลดาวไลน์จนเยอะเกินไปในการนัดเจอกันครั้งแรก คนส่วนใหญ่มากจะมาผิดพลาดตั้งแต่ข้อนี้เลยครับเพราะคนส่วนใหญ่เวลาไปสปอนเซอร์ลูกค้าให้มาเป็นดาวไลน์นั้นพอลูกค้าตกลงสมัครคุณดันไปให้ข้อมูลเขาเยอะจนเกินไปบางทีให้ทั้งแฟ้มนู้นแฟ้มนี่ไปอ่านให้หนังสือนั่นนี่ไปอ่านสอนเขียนแผนการตลาดตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยแล้วพอลูกค้าสมัครเป็นดาวไลน์กับคุณ คุณก็ปล่อยปละละเลยให้เขาทำงานคนเดียวเพราะคิดว่าตัวเองได้สอนไปหมดแล้วไม่รู้จะสอนอะไรแล้วแต่ดาวไลน์นั้นยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยอาจจะรู้แค่บางเรื่องด้วยซ้ำ

 

2.คุณควรนัดเจอกับดาวไลน์อาทิตย์ล่ะครั้งเพื่อดูทีท่าคือคนบางคนเราต้องดูก่อนว่าเขาพอมีแววไหมที่เราจะปั้นเขาเพื่อไม่ให้ตัวท่านเองเหนื่อยกับการติดตามผลด้วยเพราะดาวไลน์ของท่านคงไม่ได้มีคนเดียวแน่ อีกอย่างตัวท่านเองจะสมารถรู้ได้ว่าในหนึ่งอาทิตที่ผ่านมาตั้งแต่เขาสมัครเข้าร่วมทำธุรกิจอาชีพเสริมกับท่าน เขามีผลงานไปถึงไหนแล้วชวนคนมาบ้างรึยังหรือสมัครแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆไม่ทำอะไรข้อนี้ผู้ที่ติดตามผลจะต้องมองดาวไลน์คนนั้นให้ออกว่าพอจะมีแววไหม

 

3.เริ่มให้ข้อมูลครับ ข้อมูลในที่นี้ไม่ต้องให้หมดเหมือนข้อแรกนะครับเพียงแต่ท่านต้องมีข้อมูลผลัดเปลี่ยนในมืออยู่อย่างสม่ำเสมออย่างเช่นถ้าท่านนัดเจอดาวไลน์อาทิตล่ะครั้งท่านควรจะมี CD หรือ DVD หรือ แฟ้ม หรือ หนังสือ ผลัดเปลี่ยนกันไปเพื่อให้ดาวไลน์ของท่านได้ศึกษาทีล่ะเล็กทีล่ะน้อยไม่ใช่ให้ดาวไลน์ไปอ่านไปศึกษาทีเดียวหมดเลยนะครับต้องค่อยๆทยอยให้ สมมุติอาทิตนี้ให้ CD เกี่ยวกับแผนการตลาดดาวไลน์ไปศึกษาอาทิตหน้าให้แฟ้มไปศึกษาเป็นต้นครับ

 

4.นัดคืนข้อมูลครับ ข้อมูลที่เราให้ดาวไลน์ไปศึกษาท่านต้องนัดเพื่อขอคืนด้วยครับเพราะดาวไลน์จะเห็นคุณค่าของข้อมูลที่ท่านให้ไปดีกว่าให้ไปแล้วดาวไลน์ไม่สนใจจะอ่านหรือศึกษาครับแต่การนัดคืนก็ควรกำหนดระยะเวลาด้วยนะครับตามความเหมาะสมของข้อมูลที่ท่านให้ดาวไลน์ไปศึกษาครับ

 

5.ทำตัวเป็นอัพไลน์ที่ดี ถ้าท่านอยากให้ดาวไลน์ในองกรค์ของท่านทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพท่านจะต้องทำตัวเองเป็นอัพไลน์ที่ดีคอยให้คำปรึกษาครับผมเจอมาเยอะนะครับกับเรื่องดาวไลน์ย้ายสายงานเพราะไม่ชอบหน้าอัพไลน์ครับเหตุผลที่เป็นแบบนี้เพราะโดนอัพไลน์ชอบกดดันดาวไลน์ครับว่าคุณต้องทำอย่างนี้ต้องได้อย่างนั้นอาทิตนี้ต้องชวนคนให้ได้เท่านี้เท่านั้นดาวไลน์ของท่านจะรู้สึกกดดันครับกับอีกแบบคืออัพไลน์ชอบดุด่าตำหนิติเตียนครับอันนี้ผมขอบอกตรงๆอย่าทำครับเพราะมันจะทำให้ดาวไลน์ของท่านอยู่กับท่านไม่นานหรอกครับถึงแม้ว่าดาวไลน์จะทำผิดทำไม่ถูกใจควรจะบอกกล่าวเขาดีๆครับแล้วเขาจะมองว่าท่านน่าเคารพนับถือครับเหมือนที่คำโบราณบอกไว้ว่า'ต้องมีทั้งพระเดช และพระคุณยังไงล่ะครับ'ต่อไปท่านอาจจะไม่ต้องนัดดาวไน์ออกมาพบก็เป็นได้ดาวไลน์จะเป็นผู้นัดพบท่านเองครับ

 

เทคนิคง่ายๆ 5 ข้อในการติดตามผลดาวไลน์ของเราไม่ยากใช่ไหมครับผมหวังว่าอัพไลน์ทุกท่านน่าจะได้นำไปปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจอาชีพเสริมของท่านนะครับขอบคุณครับ...

 


 


 

 

y

อ่าน y ครั้ง
y...
 


ลิ้งเชื่อมโยงข้อมูลหลัก










กล่องอิสระ