สถิติ
เปิดเมื่อ25/08/2012
อัพเดท10/12/2012
ผู้เข้าชม3713
แสดงหน้า4054
การเริ่มต้นที่ดี


ข่าวสาร

การเรียนรู้เกี่ยวกับระบบออนไลน์




ซึ่งผมจะแบ่งเป็น
3 กลุ่มใหญ่ๆ นะครับว่า คุณอยากจะเป็นกลุ่มประเภทไหนในธุรกิจเครือข่าย
กลุ่มที่ 1
ศึกษาธุรกิจมองเห็นรายได้จากการลงมือสร้างด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องขอคำแนะนำจากใครนอกจากบางเรื่องที่ไม่เข้าใจ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ ใครๆ ก็อยากคบ ใครๆ ก็อยากรู้จัก เพราะสามารถซึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันได้ในธุรกิจ กลุ่มนี้จะตั้งเป้าหมายมาก่อน แล้วลงมือทำตามเป้าหมายที่วางไว้
กลุ่มที่ 2 ศ
ึกษาธุรกิจแค่ผ่านๆ ไม่ได้สนใจอะไรมาก สมัครมาก่อน มาเรียนรู้ที่หลัง โดยคอยขอคำแนะนำจากผู้ที่ทำมาก่อนหน้า ถ้าเจอผู้แนะนำที่ดี ก็ดีไป ถ้าไม่เจอผู้แนะนำที่ดีแบบเหวี่ยงใส่ก็แจ๊กพอร็ต ไป คนกลุ่มนี้จะคอยศึกษาด้วยตัวเองเรื่อยๆ แต่ช้ากว่ากลุ่มแรก เมื่อเข้าใจแล้วและพร้อมแล้วจะลงมือทำตามคำแนะนำของผู้ที่มาก่อนหน้าทันที
กลุ่มที่ 3
ศึกษาธุรกิจ โดยไม่ได้มองตัวเองว่าทำได้หรือไม่ได้ แต่มองแค่ว่า มีโอกาสได้รายได้ จากคนอื่นแบบไม่ต้องทำเอง ซึ่งกลุ่มนี้ เรียกว่า 'ปลิงดูดเลือด,แกะดำ ' กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่แทบจะไม่สนใจอะไรเลย ไม่เอาอะไรเลย ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น รอล้นอย่างเดียว ซึ่งกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่น่ากลัวที่สุด และน่ารังเกียจที่สุด และจะไม่มีใครให้ความสำคัญกับกลุ่มนี้เลย แม้จะยัดเยียดสื่อการสอน รวมถึงสอนงานอะไรต่างๆ ก็แล้ว กลุ่มนี้ก็จะไม่สนใจ และที่หนักสุด คือกลุ่มนี้ไม่ได้ดั่งใจ แนวแบบ 'ไม่ล้นมาซะทีว่ะ' ก็จะเริ่มมาโวยวาย หนักกว่านั้นก็มาบอกว่า 'ทำแล้วไม่เห็นได้ตังเลย ไม่เห็นมีใครช่วยเลย อัปไลน์ไม่ดีเลย' ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้อยู่ไม่ได้ทำอะไรเลย กลุ่มนี้จะไม่ค่อยแสดงตัว ไม่ค่อยแสดงคิดเห็นถ้าเกิดการรวมกลุ่ม แต่ถ้าขาดผลประโยชน์เมื่อไหร่ มาโวยวายแน่นอน ซึ่งก็ทำให้อีก 2 กลุ่มลำบากใจ ที่สุดแล้ว แต่จริงๆ ลองจี้กลุ่มนี้ให้ทำงานเหมือนเรา กลุ่มนี้ จะอ้างทันทีว่า ไม่มีเวลา ทำไม่เป็น ไม่เคยทำ ซึ่งครับ มันเป็นอะไรที่ตลกมาก กับอีก 2 กลุ่มที่อยู่ข้างบน..
ซึ่งไม่ว่าจะกลุ่มไหนแล้วแต่ ผมขอบอกแค่ว่า ทุกคน ล้วนต้องมีก้าวแรก ทุกคนต้องเรียนรู้ ทุกคนต้องลงมือทำ คนเราเกิดมา มีใครวิ่งได้เลยบ้าง ก็ล้มลุกคลุกคลานกันมาทั้งนั้น เพราะฉะนั้นมาบอกว่า ทำไม่เป็นทำไม่ได้ มันก็เลยกลายเป็นเรื่องตลก สำหรับคนที่เรียนรู้ที่จะทำ คุณจะทำได้หรือไม่ได้ไม่มีใครว่า แต่ถ้ามาอยู่กับแบบไม่ทำอะไร คุณจะกลายเป็นแกะดำทันที เพราะนี้มันคือเครือข่าย รายได้มันถึงกันหมด ครับ



การทำตลาดออนไลน์ 
การทำตลาดออนไลน์คือการกระจายสื่อของเราไปตามเว็บไซต์ต่างๆ ตาม social network ต่างๆ ซึ่ง เอาเป็นว่า 'เพียบ'
 
1.การส่งอีเมล์ 
            การส่งอีเมล์ เป็นการที่เรากระจายสื่อได้รวดเร็ว และได้ในปริมาณมากๆ ซึ่งปัจจุบันจะมีโปรแกรมส่งเมล์ โปรแกรมดูดเมล์มากมาย ซึ่งผมว่าทุกท่านที่มีอีเมล์ ก็จะเคยได้รับโฆษณาต่างๆ ของอะไรต่ออะไรมากมาย ไปแนะนำในอีเมล์คุณ แต่สิ่งที่ผมไม่ต้องการให้ทุกคนทำเพราะว่า มันเหมือนเป็นการน่ารำคาญ เป็นสแปมเมล์ และมันผิดกฎหมาย พรบ.ในปัจจุบันและมีโทษนะครับ แต่บางคนก็ไม่สนใจ แต่ก็ขอให้เข้าใจว่า มันก็คือการตลาดอย่างนึงในรูปแบบของโฆษณา เช่นกันครับ 



ตัวอย่าง โฆษณาผ่านทางอีเมล์ เปรียบเสมือนอีเมล์ขยะ หรือ สแปมเมล์ เป็นการรบกวนคนอื่นเขา 
และ ผิดกฎหมาย พรบ.ของไทยด้วย ( ไม่แนะนำให้ทำวิธีนี้)

แต่อีกวิธีที่ถูกคือ การที่ผู้สนใจหรือผู้มุ่งหวังกรอกข้อมูลมาเพื่อขอรายละเอียด เราสามารถส่งข้อมูลไปให้ผู้มุ่งหวัง เป็นสเต็ปๆ โดยใช้โปรแกรมช่วยเสริม (ไว้คุยต่อด้านเทคนิค)
......................................................................................................
2.โพสต์เว็บ (ส่วนใหญ่ผมใช้วิธีนี้เป็นหลัก) 
            การโพสเว็บไซต์ ต้องขออธิบายก่อนนะครับว่า การโพสเนียะ แยกได้เป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ 
 1.การโพสเว็บบอร์ด 
2.การโพสเว็บประประกาศ 
ความแตกต่างระหว่างการโพส เว็บบอร์ดกับเว็บประกาศ         
คุณก็ต้องถามว่าแล้วอะไรมันดีกว่ากัน มันแตกต่างกันยังไง ซึ่งหลายๆ คนไม่เข้าใจ ผมจะพูดถึงหลัก seo เข้าไปด้วย บางคนก็ไม่เข้าใจอีกว่า seo มันคืออะไร เอาเป็นว่าผมใช้คำพูดบ้านๆ  ดีกว่า จะได้เข้าใจง่ายดี เช่นเมื่อเรา ต้องการหาอะไรซักอย่าง แน่นอนว่าใครๆ คงต้องรู้จัก
www.google.co.th กันอยู่แล้วใช่ไหมครับ เพราะนั่นคือช่องทางการหาอะไรซักอย่างใน internet  เช่น เราต้องการฟังเพลง เราก็พิมพ์ “ฟังเพลง” ใน google ใช่ไหมครับ
 


จากรูปคุณจะเห็น อันดับเว็บไซต์ต้นๆ ที่มี keyword คำว่า ฟังเพลง และแน่นอนว่า คุณคงไม่คลิกที่อันดับหลังๆ ก่อนหรอกใช่ไหมครับ คุณก็ต้องคลิกอันดับแรกๆ ก่อนอยู่แล้ว นั่นคือ seo ครับ นั่นก็คือทำให้เว็บของคุณเกิดการค้นหาอับดับต้นๆของ google  นั่นเอง
          การโพสเว็บบอร์ด กับ เว็บประกาศได้ seo ด้วยไหม คำตอบคือได้ครับ แต่มันก็อยู่ที่คุณเลือกว่าคุณต้องการอะไร ซึ่งผมจะเปรียบเทียบให้ชมกันนะครับ
การโพสเว็บบอร์ด 
คุณจะได้หลัก seo ไม่มากนัก แต่คุณจะได้คนที่เข้ามาดูมากกว่า โพสเว็บประกาศ เพราะเว็บบอร์ด คือเว็บที่เปิดหมวด เฉพาะหมวดที่หารายได้ อยู่แล้ว ซึ่ง



จากรูป คุณจะเห็น ผู้เข้าชมเว็บบอร์ด ที่กำลังดู โฆษณาต่างๆ สำหรับ ผู้ที่ต้องการหารายได้มากมาย นั่นทำให้ท่านรู้ว่า คุณโปรโมทเว็บบอร์ดมีคนอ่านมีคนดูของคุณแน่นอน นั่นคือโอกาสที่คุณจะสร้างรายได้จากการสร้างเครือข่ายออนไลน์ครับ 
            แล้วเว็บบอร์ดไหนดีหละ??  ครับ ไม่ต้องหาที่ไหนครับ ผมเตรียมรายชื่อไว้ให้ที่ท้ายๆ ของคู่มืออยู่แล้วครับ ก็อาจจะมีบางเว็บบ้างที่ปิดไปแล้ว ก็สามารถโปรโมทได้เว็บถัดไปนะครับ 
            ซึ่งกลยุทธการโพสเว็บบอร์ด นั้นมีความสำคัญที่สุด อย่าลืมนะครับว่า ไม่ใช่คุณโปรโมทเว็บไซต์นั้นคนเดียว คนธุรกิจอื่นหรือธุรกิจเดียวกันเขาก็โปรโมทเหมือนคุณ แล้วจะเอาอะไรไปสู้กับเขา นี่ไงครับสิ่งที่ผมกำลังบอกคุณ.. 


กลยุทธ์ในการตั้งกระทู้
1 หัวข้อโพสของเรา

สิ่งแรก    ที่คนจะมองคือหัวข้อโพสของคุณ คุณจะเห็นในหลายๆ หัวข้อของแต่ละผู้โฆษณามากมาย ที่เขาได้คิดได้เขียนหัวข้อกัน การเขียนข้อความธรรมดา แต่การเพิ่มสัญลัษณ์ก็ทำให้หัวข้อดูน่าสนใจเช่นกัน แต่หัวข้อที่ดีที่สุด คือ อ่านแล้วเหมือนทำให้เกิดความเคลื่อนไหวสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงคือการเขียนหัวข้อแล้วไม่น่าสนใจ 
2.ข้อความ 
            ข้อความนั่นก็คือจุดเด่นที่สุดหลังจากที่มีคนคลิกเข้ามาในหัวข้อหรือเว็บไซต์ของเราแล้วเรียกว่า เปิดการขาย กับปิดการขายให้เราเลย  แต่ผมไม่แนะนำให้คุณเขียนข้อความอธิบายจนไม่เหลืออะไรเลยที่จะต้องอยากจะรู้ อยากจะศึกษาต่อ อยากจะสอบถาม เหมือนเราเหมือนเขาครับ อะไรที่เรารู้หมดแล้วเราก็ไม่อยากสนใจ แม้จะว่ามันน่าสนใจก็ตาม ควรมีคำพูดที่เปิดอธิบายว่ามันคืออะไร ธุรกิจเราทำอะไร รายได้มาจากไหน แนะนำให้ประมาณนี้พอครับ แต่หากเริ่มมีรายได้แล้วก็ควร มีข้อความการถอนรายได้ด้วยก็ดี นั่นทำให้เขามั่นใจว่า เราได้เงินจริงจากธุรกิจ
3.หัวข้อโพสของคุณ ต้องอยู่อันดับต้นๆ ของเว็บไซต์ที่คุณโปรโมท เสมอ ๆ 
            และนี่คือข้อสำคัญที่สุดของการโพสเว็บบอร์ด แน่นอนว่า เมื่อมีคนคลิกหมวดของธุรกิจเข้ามาในเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งแยกเป็นหมวดหมู่มากมาย การอยู่ในอันดับต้นๆ ของหน้านั้น หลังจากที่คุณได้โพสข้อความของคุณแล้ว เรียกกว่าการดันกระทู้  นั่นหมายถึงการที่คุณได้แสดงความคิดเห็นข้อความโพสของคุณในกระทู้ของคุณ หากคุณไปตอบกระทู้ในข้อความกระทู้ของคนอื่น ข้อความนั้นก็จะขึ้นมาในอันดับแรกเช่นกัน ในหน้านั้น การดันกระทู้ ที่ดีจะต้องดูเวลา เช่นหากคุณมาดันกระทู้ช่วงเวลา ตี 3 ผมก็คิดว่าไม่มีใครอ่านกระทู้ของคุณหรอกครับ เพราะเขาคงหลับกันหมดแล้ว  เวลาที่ดีที่สุดเหมาะกับการดันกระทู้  ผมจะบอกช่วงเวลาที่เหมาะสมให้ แต่อย่างที่บอกนะครับ ผมเอาประสบการณ์มาเขียนให้  
เวลาที่เหมาะสมกับการดันกระทู้ 
-เช้า  8.00 น.-10.00 น.  
-เที่ยง 12.00 น. 
-เย็น 17.00 น. – 22.00 น. 

            การดันกระทู้ไม่จำเป็นต้อง fix ที่เวลาที่ผมกำหนดไว้นะครับ เอาสะดวกของเราเป็นหลักครับ แค่เวลาที่ผมบอก นั้นคือเวลาที่จะมีคนดูในช่วงเวลานั้นมากที่สุดเท่านั้นเอง สิ่งที่ผมจะย้ำคือ ความเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช่แนวแบบ ดันกระทู้วันนี้  แล้วหายไป 10 วัน หัวข้อโพสของคุณ ก็จะไปอยู่หน้าหลังๆ อาจจะหน้าที่ 10 หรือไม่ก็หน้าที่ร้อยเลย ก็ขึ้นอยู่ว่าเว็บไซต์ที่คุณโพสนั้นเป็นที่นิยมของผู้หารายได้มากน้อยแค่ไหนครับ ทุกอย่างต้องเสมอต้นเสมอปลาย คนที่เข้ามาอ่านของคุณ ไม่มีหรอกครับ แบบ เห็นปุ๊บสมัครเลย ซึ่งส่วนใหญ่เขาก็จะคอยดูความเคลื่อนไหวของคุณ ว่าคุณยังทำอยู่ไหม คุณยังดันกระทู้อยู่ไหม เพราะนั่นคือความเคลื่อนไหว คนที่คอยดันกระทู้บ่อย ก็จะได้ยอด view หรือคนเข้าชม ลิงค์ของคุณ  จะโชว์ด้วยจำนวนตัวเลข นั่นแหล่ะครับ คือ ทำให้โพสของคุณ  กระทู้ของคุณ เป็นที่หน้าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ยิ่งคนมีมากเท่าไหร่ ก็ทำให้มีคนสนใจคุณมากเท่านั้น เมื่อความน่าเชื่อถือเกิดขึ้น การสมัครสมาชิกก็จะง่ายขึ้น กับ คนใหม่ ที่เข้ามาอ่านกระทู้ของคุณ เขาก็ตัดสินใจได้ทันที อย่างที่บอกนะครับ ทุกอย่างต้องเสมอต้น เสมอปลาย ต้องใช้เวลา แต่สิ่งแรกที่จะช่วยเราเป็นบทเรียนอย่างที่ดีที่สุด คือดูคนที่มีรายได้แล้ว กับช่องทางของการแนะนำ ปรึกษาเขา ดูวิธีการของเขา แล้วดูโพสของคนอื่น อย่าทำอะไรเอง คิดเอง หากคุณยังไม่เคยทำ ต้นแบบที่ดี คุณก็สำเร็จได้ง่ายและเร็ว คุณต้องคอยที่จะเรียนรู้ ผู้แนะนำเราที่ดี เขาจะไม่บอกคุณหรอกครับว่า คุณต้องเขียนข้อความตามที่เขาบอก อย่างที่บอกอ่ะครับ คนที่เก่งๆ หรือผู้แนะนำที่ดี เขาจะไม่ตกปลาให้เรา แต่เขาจะสอนให้เราตกปลากินเอง เขาจะหาอุปกรณ์ตกปลาให้ เขาจะหาวิธีการตกปลาให้ แต่สุดท้าย คุณต้องคิดเองทำเอง เพราะถ้าคุณยังไม่เคยตกปลา แต่กลายเป็นว่า ผู้แนะนำจับคุณไปนั่งตรงนี้ ตกตรงนี้ คุณจะไม่รู้วิธีการตกปลาเลย พอคุณตกไม่ได้ คุณก็บอกว่า ยากจัง  เลิกและ ไปหาอะไรอย่างอื่นทำดีกว่า นั่นคือคนที่ไม่สำเร็จ เพราะคนที่สำเร็จ เขารู้จักบทเรียน เขารู้จักการปรับตัวและเรียนรู้ที่จะทำให้สำเร็จ สุดท้ายแล้วปริมาณจะมาพร้อมกับรายได้อย่างที่ผมบอก หากคุณตกปลาที่คันเบ็ดเดียวแล้ว ที่เดียวแล้ว คุณอาจจะต้องใช้เวลานาน แต่ถ้าคุณมีคันเบ็ด หลายๆ อัน นั่นก็เปรียบเสมือนว่า คุณได้โปรโมทเว็บของคุณ ข้อความโพสของคุณหลายๆ เว็บ นั่นก็ทำให้คุณมีโอกาสมากขึ้นนั่นเอง 
            แต่สิ่งที่ผมบอกสุดท้าย ผมไม่แนะนำให้ทำอะไรหลายๆ ธุรกิจในข้อความโพสเดียวกัน เพราะหลักความคิดของคน สิ่งแรกหากคุณโปรโมทหลายธุรกิจที่คุณทำในโพสของคุณ เขาจะมองคุณทันทีว่า คุณเป็นคนไม่แน่วแน่ ทำหลายตัว ทำโน่นทำนี่ ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ความน่าเชื่อถือของคุณ ก็แทบจะหายไปเลย  ใช่ครับบางคนอาจจะมองว่า มันเป็นทางเลือกของสมาชิกใหม่ที่เข้ามาอ่านในกระทู้ ซึ่งคนที่มองแบบเป็นทางเลือก มีเพียง 20 เปอร์เซ็นเท่านั้นนั่นเท่ากับว่า การที่คุณ โปรโมทมากกว่า 1 ธุรกิจ อีก 80 เปอร์เซ็นจะเลิกอ่านข้อความของคุณ แล้วหากระทู้อื่นทันที ทำไมเหรอครับ อย่างที่บอกครับ ความน่าเชื่อถือของคุณหายไปแล้ว เพราะใครก็ต้องคิดว่า เดียวคุณก็ไปทำ ธุรกิจอื่นอีก เรื่อยๆ เป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ได้
การลงโฆษณาบน Internet
1.Facebook

เป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์เว็บไซต์โดยที่ข้อความและรูปภาพของโฆษณาจะถูกแสดงอยู่ทางด้านขวาของหน้า Facebook ลักษณะคล้ายๆ กับการติด Banner บนเว็บไซต์ทั่วไป แต่จะละเอียดกว่า เพราะผู้ลงโฆษณาจะสามารถระบุรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายที่จะให้เห็นโฆษณาได้ เช่นระบุอายุ เพศ ความสนใจ ฯลฯ
สำหรับงบประมาณการโฆษณาสามารถกำหนดได้ตามความต้องการ และมีรูปแบบของการโฆษณาให้เลือกทั้งแบบ จ่ายเงินตามจำนวนครั้งที่คนคลิกลิงก์ เช่นถ้ามีคนคลิ๊กโฆษณาข้อความของคุณ ก็จะถูกหักเงินทันที ซึ่งก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะกำหนดโฆษณากี่คลิก เช่นเราลงโฆษณาที่ 3 พันบาท ได้ 1 พันคลิ๊ก ก็คลิกจนกว่าจะครบ 1 พันครับ ถ้าอยากต่ออายุเพื่อให้โฆษณาอยู่ต่อเราก็โอนเงินไปใหม่ ซึ่งช่องทางนี้ เสียเงิน แต่คุณต้องรู้ก่อนนะครับว่า โฆษณาพวกนี้ facebook นี่ คนเล่นทั่วประเทศและเล่นทั่วโลก นั่นมี
 
โอกาสที่มากเมื่อมีคนสนใจธูรกิจคุณ แต่ขอให้เข้าใจนะครับว่า มันคือการโฆษณา คนคลิ๊กเข้ามา เขาจะสมัครหรือไม่สมัครก็แล้วแต่ แต่คุณก็ถูกหักเงินต่อคลิ๊กอยู่แล้วครับซึ่งบางคนไม่อยากเสียเงินกับโฆษณาบน facebook แต่เราก็จะใช้วิธีการโพสตามกลุ่มหารายได้ต่างๆ บน facebook แทน หรือ โพสใน facebook ของเราแทน ซึ่งเรามีเพื่อนเท่าไหร่ใน facebook เขาก็เห็นข้อความของคุณทั้งหมดเช่นกัน บางทีก็เป็นการส่งข้อความสั้นๆ ไป แนะนำธุรกิจ ก็ทุกอย่างอยู่ที่เราครับ
ตัวอย่างข้อความก็ตามรูปเลยครับ

2.การติดแบนเนอร์ ตามเว็บต่างๆ



การติดแบนเนอร์ ตามเว็บไซต์ต่างๆ เราจะต้องเสียเงิน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ ว่าเราจะติดในส่วนไหนของเว็บไซต์ ราคาไม่เท่ากัน รวมถึงเว็บไซต์นั้นมีคนเข้าชมมากน้อยแค่ไหนด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะติดที่ต่อเดือนหรือต่อปี เริ่มต้นก็อยู่ที่ประมาณ 300 บาท ซึ่งบางเว็บก็สูงถึง 3-5 พันบาทก็มีครับ อย่างที่บอกครับ ขึ้นอยู่กับเว็บไซต์นั้นมีคนเข้าชมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งแบนเนอร์ที่เราลงโฆษณาก็จะผ่านสายตาผู้คนนับหมื่น นับพันคนต่อวัน นั่นก็ทำให้เรามีโอกาสแนะนำสมาชิกได้มากเช่นกันครับ หรือจะเป็นข้อความ text ก็จะถูกกว่าข้อความแบนเนอร์ ก็ขึ้นอยู่กับเราเลือกแบบไหน ครับ
 
 
3.การลงโฆษณา ppc คลิ๊ก 
            การลงโฆษณาในลักษณะนี้จะต้องเสียเงินครับ แต่ก็ไม่ถือว่าแพงเกินไป การโฆษณาในลักษณะนี้ จะเป็นการที่เราต้องไปสมัครขอลงโฆษณา กับเว็บไซต์ที่รับให้บริการ อย่างที่คุณเคยได้ยินกันนะครับ ที่เขาบอกว่า “คลิ๊กเมล์ได้เงิน” อะไรพวกนี้ ก็คือ ppc คลิ๊กนี่หล่ะครับ โดยข้อความของคุณ หรือ รูปภาพจะไปอยู่ตามเว็บไซต์ที่คนลงโฆษณา คุณจะได้ผู้เข้าชมแน่นอน เพราะเขาต้องคลิ๊กโฆษณาของคุณ และต้องรอ เวลาถึง 30 วินาที ก่อนที่เขาจะปิดโฆษณาของคุณได้ ไม่งั้นเขาก็ไม่ได้เงิน นั่นก็ทำให้มีโอกาสที่คุณจะมีคนสมัครเช่นกันครับ แต่อย่างที่บอกครับ PPC เหมือนเป็นการที่เราบังคับให้ผู้ที่ต้องการหารายได้จากการคลิ๊ก โฆษณาของเราครับ เราจะได้ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์เราสูง หรือ โพสที่เราโพสตามเว็บมียอดความน่าเชื่อถือสูงขึ้นด้วยเว็บที่นิยมในไทยที่ลงโฆษณาในลักษณะนี้ ก็ อย่างเช่นhttp://thaiadpoint.com
4.การลงโฆษณา กับ BumQ 
            การลงโฆษณากับ BumQ  นี้ ก็จะเหมือน ppc คลิ๊กนะครับ แต่ การลงโฆษณากับ http://bumq.com โฆษณาของเราจะวิ่งไปทั่วเว็บไซต์พันธมิตร ที่เข้าร่วมกับการกระจายโฆษณาตามเว็บไซต์ที่เป็นในลักษณะเดียวกันเป็นเกือบร้อยเว็บไซต์ โดยไม่ได้ติดไว้ที่เดียวอย่าง การลงโฆษณา อย่างไทยแอดพอยท์ ซึ่งการโฆษณากับ http://bumq.com 
เสียเงินครับ ก็แพงกว่า ppc คลิ๊ก ขั้นต่ำต่อคลิ๊กอยู่ที่ 1 บาท แต่คุณจะได้ลิงค์ โฆษณาของคุณไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ หรือ ข้อความลิงค์เว็บโปรโมทธุรกิจของคุณ จะกระจายได้ไปทั่วเว็บไซต์ที่เขาเข้าร่วมกัน เรียกว่า เว็บไซต์พันธมิตร นั่นทำให้มีอัตราคนเข้าชม และมีโอกาสสูงที่คนจะสนใจและคลิ๊กผ่านโฆษณาของคุณ แต่ขอให้เข้าใจนะครับ ทั่งสองอย่างนี้ไม่ว่า จะเป็น BumQ หรือ ppc click เขาจะหักเงินของคุณเมื่อมีคนคลิ๊กข้อความหรือรูปภาพของคุณเท่านั้นครับ
 
5.Google Adwords
            Google AdWords เป็นวิธีการโฆษณาออนไลน์แบบจ่ายเมื่อคลิก (Pay-Per-Click หรือ PPC) จัดทำโดย Google ซึ่งเป็น Search Engine อันดับ 1 ของโลก เมื่อลูกค้าเป้าหมายเรา พิมพ์คีย์เวิรด์ ที่ต้องการค้นหาใน Google ตรงกับคีย์เวิรด์ ที่เรากำหนดไว้ โฆษณาของเราปรากฏขึ้นที่พื้นที่ทางด้านขวามือ หรือด้านบน (ที่เขียนว่า ลิงค์ผู้สนับสนุน หรือ Sponsor link) ซึ่งเมื่อคลิ๊กที่โฆษณานั้นก็จะลิ๊งค์ไปยังเว็บไซต์ที่เรากำหนดไว้ได้ทันที ซึ่งท่าน จะเสียค่าใช้จ่ายเมื่อมีคนคลิกเท่านั้น แต่ถ้าชมอย่างเดียว ไม่มีการคลิก ท่านก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ 
            แต่ในปี พ.ศ.2555 นี้ Google Adwords  ไม่รับธุรกิจเครือข่ายนะครับ แต่ถ้าพวกเป็นเว็บขายสินค้า ลงโฆษณาได้ครับ ก็เอาไว้ประดับความรู้กันครับ


จะเห็นว่า กรอบสีแดงที่ผม ทำไว้นะครับ โฆษณาพวกนี้ ไม่ต้อง seo เลย เว็บของเราจะอยู่อันดับ 1 หน้าแรกของ  keyword นั้นๆ ตลอดครับ โอกาสสูงมากที่คนทั่วโลกจะชมโฆษณาผ่านเว็บไซต์ของคุณครับ ใครขายของผมแนะนำวิธีนี้ครับ
 
6.การปักหมุดกระทู้ 
            ครับเสียเงินเช่นกันครับ แต่ ก็ไม่ได้มากอะไร การปักหมุด เจ้าของเว็บจะคิดที่ตามราคาของระยะเวลาที่ติดครับ เช่น 1 เดือน 2 เดือน อะไรแบบนี้ การปักหมุดกระทู้ ผมถือว่าเป็นการดีในระดับต้นๆ นะครับ เพราะว่า คุณไม่ต้องไปดันกระทู้ทุกวัน เพราะลิงค์โฆษณาของคุณจะอยู่อันดับ 1 ตลอดเวลา จนจะหมดเวลาที่คุณลงกับเจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ นั่นทำให้เมื่อมีผู้สนใจเข้ามาในหมวดโฆษณานั้นๆ ลิงค์ของคุณจะเป็นลิงค์แรกที่มีผู้คนผ่านสายตาเข้ามา



จากรูปที่ผมขีดเส้นไว้จะเห็นว่า เป็นกระทู้ที่ปักหมุด ครับ ยอดผู้เข้าชมก็จะสูงตามไปด้วยเพราะว่า เป็นลิงค์แรกของเว็บไซต์นั้นที่ผ่านตาของผู้เข้าชมครับ ซึ่งราคาปักหมุดต่อเดือนก็อย่างถูก ก็ 3 เดือน 100 บาท อย่างแพงสุดก็ เดือนละ 300 บาท เท่าที่ผมเห็นนะครับ แต่ถ้าแพงสุดๆ จริงๆ ก็ เดือนละ 3 พันบาท ก็มีครับ
 
 
 
สรุป 
ผมหวังว่า ทุกท่านคงพอเข้าใจกับกระบวนการสร้างเครือข่ายออนไลน์ วิธีการทำ รวมถึงการกระจายสื่อของเราออกไป ครับ ทุกอย่างมันเป็นสถิติ และ อัตราของผู้เข้าชมของเราครับ แน่นอนว่า ใน 1 พันคนที่ได้อ่านผ่านหน้าเว็บไซต์หรือเว็บโปรโมทเราเข้ามา หรือข้อความที่เราพิมพ์ ทุกอย่างมีสถิติผู้ที่สนใจและไม่สนใจ นั่นอย่างที่ผมบอกครับ ปริมาณจะมาพร้อมกับรายได้ ถ้าสมมุติแบบต่ำสุดๆ จากสถิตเรา มีคนชมเว็บไซต์ 1,000 คน มีคนสมัครเข้ามา 1 คน แปลว่าเราจะได้รายได้จากการแนะนำตรงที่ 200 บาท ถ้าคุณอยากได้ 1,000 บาท ต่อวัน คุณก็ต้อง ทำให้ปริมาณผู้เข้าชม ที่ 10,000 คนต่อวัน นี่แหล่ะครับ สูตรความสำเร็จ
                       ทุกท่านจะเห็นว่าผมไม่ได้เน้นไปที่ วิธีการว่าจะโปรโมทแบบไหน หรือทำยังไงจะเสียเงินกับโฆษณาหรือไม่เสียเงิน แต่ที่ผมเน้นที่สุดในคู่มือเล่มนี้ คือ หัวข้อกระทู้  ข้อความในกระทู้ ผมเน้นแค่นั้น และได้อธิบายเรื่องการโพสเว็บบอร์ดมากที่สุด เพราะผมต้องการให้ทุกคนได้เรียนรู้ของคนอื่นที่โปรโมทธุรกิจทั่วไปด้วย หากคุณเริ่มจากการส่งอีเมล์ หรือ การโฆษณาเสียเงินต่างๆ คุณก็จะไม่รู้เลยว่าคนอื่นที่เขาได้เงินกันเยอะๆ ได้สมาชิกกันเยอะๆ เขาทำกันยังไง เขาเขียนข้อความกันยังไง เขาเขียนหัวข้อโพสยังไงให้สะดุดตา แต่หากคุณคิดว่าคุณพร้อมแล้ว ช่องทางของการโฆษณาเสียเงินต่างๆ จะเป็นผลดีกับคุณทั้งหมด ไม่ว่าธุรกิจไหนก็ตาม แต่งานออนไลน์ถ้าต้องการหารายได้ที่ผ่าน internet ธุรกิจของคุณที่เสนอ จะต้องไม่แพงเกินไป ลงทุนไม่มากเกินไป เพราะเมื่อไหร่ที่เป็นธุรกิจที่ต้องลงทุนมากๆ คุณอาจจะได้แค่รายชื่อผู้ที่สมัครเข้ามา แต่คุณจะไม่ได้คนที่ active น้อยมาก เพราะเมื่อไหร่ที่ธุรกิจลงทุนสูง การโอนเงินจะทำให้คนนั้นตัดสินใจได้ช้าลงมาก และคิดมากถึงเงินที่ต้องเสียไป แต่หากเมื่อไหร่ที่ธุรกิจที่ลงทุนน้อย เช่นหลักร้อยแต่ไม่เกินหลักพัน การที่ใครจะควักเงินจากกระเป๋าแล้วโอนเงินเพื่อเป็นสมาชิกจะทำได้ง่ายมาก และไม่ต้องคิดนาน การตลาด การแนะนำก็จะทำได้อย่างรวดเร็วผมหวังว่า คู่มือเล่มนี้จะทำให้ทุกท่านสำเร็จกับการสร้างเครือข่ายได้ ความเสมอต้นเสมอปลายการดูแลสมาชิก การสอนสมาชิก ให้ทำตามเราก็สำคัญ ซึ่งจริงๆ แล้วทุกคนที่จะสร้างรายได้จากเครือข่ายในธุรกิจ happy2pays นี้ คุณมีหน้าที่แค่แนะนำ 2 คนเท่านั้นเอง แล้วให้ 2 คนนั้นทำเหมือนเราก็แนะนำ 2 คนไปเรื่อยๆ และคู่มือเล่มนี้ ได้รวมรวมความรู้ใหม่ๆ ที่ท่านหลายคนอาจจะไม่รู้ นั่นทำให้ แนะนำตรงได้มากกว่า 2 คนแน่นอน หากคุณ ทำตามที่ผมบอกและได้อ่านและทำความเข้าใจตั้งแต่ต้นจนจบ คุณสำเร็จแน่นอน ผมเขียนด้วยประสบการณ์ไม่ได้เขียนจากการเอาคู่มือหรือวิธีการของใครมาเป็นต้นแบบ ผมเขียนด้วยมือ ที่ผมจับธุรกิจออนไลน์ตลอด 4 ปี ของผม ผมไม่เคยล้มเหลวกับธุรกิจตลอด 4 ปี แต่ใช่ว่าผมจะเริ่มรู้จักกับธุรกิจเครือข่ายแค่ 4ปีนะครับ




 

y

อ่าน y ครั้ง
y...
 


ลิ้งเชื่อมโยงข้อมูลหลัก










กล่องอิสระ